วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

k.เจมส์ ทีมงาน kdropshipping


สวัสดีคับเพื่อนๆ.....ผมรู้สึกเป็นเกียรติและยินดีมาก ๆ คับที่เพื่อน ๆสมาชิก
คลิ๊กเข้ามาอ่านกัน...  ที่จริงก็ไม่ได้น่าสนใจอะไรมากมายอยู่แร้ว......
เพราะผมไม่ใช่   เจมส์  จิ   5555

       แต่ถ้าอยากทำความรู้จักกันซักนิส...ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร
ทำไมมาทำ kdropshipping  แล้วก่อนหน้านั้นผมใช้ชีวิตหรือทำอะไรมาบ้าง 
มีความฝันอยากจะทำอะไรต่อไป....ก็ลองอ่านดูนะครับ...
(ขอบคุณจริง ๆ ที่กล้าอ่าน 5555) (อย่าลืมจดด้วยนะครับ....สำคัญมาก ๆ)

    คับ   ชื่อ เจมส์  นะคร้า.บ  ภักดี   รังจันทึก  (นามสกุลเชื้อสายโคราช)
แต่มาเกิดและเติบโตที่ปทุมธานี  เดิมชื่อ  บัณฑิต   รังจันทึก
เปลี่ยนเป็น ภักดี ครับ เพราะเป็นคนซื่อ ๆ แต่ตอนเล็ก ๆ มีอีกชื่อนะครับ
ชื่อแรกของผมเรย ชื่อ  รักชาติ   ผมเกิดแปดโมงตรงเคารพธงชาติพอดี 


มาว่ากันต่อ...อย่าลืมจดนะครับ..    ผมเป็นเพื่อนสนิทของคุณเค 
เจ้าของเวปนะครับ  เกิดมาก็เจอกันเลยครับ  เพราะบ้านเราอยู่
ฝั่งตรงข้ามกัน  ตั้งแต่เด็ก ๆ ก็ทำอะไรด้วยกันมาตลอด มีบางช่วงเวลาก็แยกกันไปบ้างในตอนที่เรียนหนังสือ เพราะเรียนคนละที่กัน

   สมัยเด็กๆ  ผมมีความฝันลึก ๆ ในใจว่าอยากจะเป็นพระเอกลิเก
เมื่อตอนเด็ก ๆ ผมเป็นคนชอบร้องรำ ทำเพลง ชอบเต้น ชอบแสดงออก  ประกอบกับข้างบ้านเป็นศาลจีนจะมีโรงงิ้วโรงแสดง 
มีลิเกมาเล่นเป็นประจำ  ที่บ้านผมเป็นร้านตัดผ้า เป็นร้านซ่อมเรือยนต์  ผมชอบแอบเอาเศษผ้าคุณยายมาโพกหัวรำอยู่หน้ากระจก






ดูแล้วเห็นแววชาวแร๊พมั้ยครับพี่น้อง.....

  

อีกสองสิ่งที่ผมเป็นก็คือผมเป็นเจ้าพ่อทรงผมและมนุษย์ร้อยอาชีพ
ในชีวิตของผมทุกสิ่งที่ผมต้องการจะเป็น  ผมได้เป็นได้ทำมาหมดทุกอย่างก่อนที่จะมาทำธุรกิจร่วมกับเพื่อน  ยกเว้นเพียงแค่สิ่งเดียวที่ผมยังไม่ได้เป็น  ผมยังไม่เคยเป็นพระเอกลิเก 555


เพื่อน ๆ  ก็คงสงสัยกันนะครับว่าผมไปเป็นอะไรมา  ไปทำอะไรมาบ้าง  เด็ก ๆ ผมเป็นนักมวยคับ  มีสมญานามว่า  เจมส์ดั๊กก๊าซ  ลูกบ้านกระแชง   เคยได้ยินมั้ยคับ  คงจะไม่เคยแน่นอน  เพราะผมไม่เคยได้ขึ้นชกบนเวที  คุณพ่อผมไม่อนุญาตให้ชกอาชีพเพราะเป็นลูกคนเดียว  เลยได้แค่เป็นคู่ซ้อมให้เพื่อน ๆ ในค่าย ว.เนตรพระฤทธิ์  (ปัจจุบันไม่มีแล้วนะครับ )นักมวยดัง ๆ ก็มี  บารมี (ฉุน) ศิษย์เจ้าพ่อปู่   แล้วก็  กังวาลไพร(เล็กดีด)  ศิษย์เจ้าพ่อปู่  ส่วนในรูป   รูปนี้ตอนเป็นทหารคับ ไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ เลยประลองฝีไม้ลายมือกับคุณเค  เห็นมั้ยคับ  คนเป็นมวยกาดต้องไม่ตก....
                     

      
                                          รูปนี้เป็นเพื่อนสนิทครับ  สนิทจริงๆ คบกันมาเกิน 30 ปีครับ
            

คุณอาจสงสัยว่า  บุคคลิกของผมมันดูขัด ๆ  อยากเป็นพระเอกลิเกแต่ไม่ได้เป็น
ไปเป็นนักมวย  แล้วจะมาทำธุรกิจ  มาดูแลด้านเทคนิคให้ลูกค้า หรืองานด้านเวปไซต์ กับ kdropshipping ได้เหรอ?  ไม่ต้องห่วงครับผมแข็งแรงพอ

                                                                                 
นี่ไงคับ  ใบผ่านความแข็งแรงของผม   เขาว่ากันว่าเป็นทหารให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด   แต่ที่จริงแล้ว...."เหนื่อยกว่าที่คุณคิด"
 ไม่เชื่อลองดูครับ...555
เมื่อสมัยผมเป็นทหารผมก็คุ้นเคยกับการจัดการระบบเป็นอย่างดี  ผมเป็นทหารฝ่ายส่งกำลังบำรุง  ถ้าเป็นภาษาบ้านๆ
ก็คือฝ่ายลำเลียง  เสบียง  พล  นั่นเอง  ผมเป็นทหารเหล่าช่าง
คนเดียวในกองส่งกำลัง  ผมไม่มีฝีมือช่างอะไรมากนัก  ผมเป็นอยู่อย่างเดียวคือ  ช่างฉันเถอะ  ล้อเล่นนะค้า.บ 
ผมเป็นช่างศิลป์ได้แค่อย่างเดียวคับ


   ที่บอกว่าเป็นช่างศิลป์ได้แค่อย่างเดียว  เพราะเรียนมาทางศิลปะ  แล้วก็รับรางวัลผลงานทางด้านศิลป์อยู่สม่ำเสมอครับ  ถือเป็นเกียรติและความภูมิใจที่สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน 

   ในรูปผมได้รับรางวัล  นักเรียนดีเด่น  ด้านการบำเพ็ญประโยชน์และสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียน 
                              (ไม่น่าเชื่อใช่มะ  ว่าบุคคลิกสมควรจะได้ 555)      

    อ่ะหน่ะ! เป็นเรื่องในวัยเด็ก  มีคนมากมายที่ดีที่เก่งกว่าเราเยอะ และเขาสมควรที่จะได้รับรางวัลเช่นกัน  คุณเองก็ทำได้ ซักวัน  แอนตาซิล  ต้องมองเห็น



บางคนสงสัยว่าทำไมผมไม่เป็นทหารต่อไป  ดูมั่นคงดี  ถ้าผมจะตอบคุณว่า  ผมไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นทหารอย่างแท้จริง  คุณจะ GET หรือป่าว  แต่สิ่งที่ได้มาจากทหารคือ 
คำว่า ความอดทน  และ  การรอคอย   ที่เหนือกว่าคนปกติธรรมดาทั่วไป   

ออกจากทหารแล้วทำอะไร

สิ่งแรกที่ผมทำคือ  ทำให้ตัวเองหล่อ...5555  วงเล็บ(หรือป่าว)  เจ้าพ่อทรงผมอย่างเรามันต้องทำอะไรไม่เหมือนใคร  ตอนนั้นคงจะเก็บกดที่ต้องไว้ผมสั้น ๆ
มาตลอด  เป็นหนุ่มในเครื่องแบบแท้ ๆ ยังไม่มีสาวมองเรย  แล้วถ้าผมยาวล่ะ
เป็นไอ้หนุ่มผมยาว  อาจจะหล่อก็ได้  แล้วถ้าเป็นนักดนตรีด้วยล่ะ  โอ้โห...
คงจะเฟี้ยวเงาะ   ในตอนนั้นผมคิดแต่อยากจะเป็นนักดนตรีอาชีพอย่างเดียว
อยากพิสูจน์ตัวเองว่าเราทำอะไรได้ดีกว่าการเป็นทหาร  ทำงานอิสระดีกว่า  ไม่ชอบที่จะอยู่ในระบบ  ในกรอบ  ตอนนั้นผมคิดแบบนั้นจริงๆ  ผมคิดว่าหลังจากที่ผมออกมาแล้ว ผมอยากเรียนเทคนิคทางดนตรีเพิ่ม  เดิมทีชอบดนตรี  เล่นดนตรีมาบ้างเหมือนกัน  เลยอยากลองดูซักตั้งว่าถ้าตั้งใจจริง ๆ จะเอาดีได้ไหม  เพราะก่อนหน้า
ที่จะเข้าทหารผมเล่นดนตรีร้องเพลงเป็น job กึ่งอาชีพ รับเฉพาะงานแต่งงาน
ก็หางานจากพรรคพวกเพื่อนฝูง  แต่ก็ต้องบอกตามตรงว่าไม่เก่ง แต่ไม่เคยอายกับการอยู่บนเวที เลยลองหางานตามร้านเล็กๆเพื่อเล่นโฟล์คซองดูบ้าง  เคยฮาสุด ๆ อยากเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง  ไปเล่นแบบ steet ตามท้องถนนดูเพื่อรับเศษเงินใส่กระเป๋ากีตาร์  หรือทิปดี ๆ จากฝรั่ง  ต้องเป็นหน้าม้าตัวเอง  ใส่แบงค์ลงไปในกล่องเยอะ ๆ ร้องอยู่ตรอกข้าวสาร  เพลงฝรั่งล้วน ๆ  ผมไม่ได้แบงค์เพิ่ม  แต่ได้แค่ปลาหมึกย่างจากนักท่องเที่ยว
มากินแค่ไม้เดียว  โถ...กูร้องซะเสียงแห้ง    ทำไมไม่สงสารกูบ้างเรย..

      จุดเปลี่ยนของผมในมุมที่ตัวเองไม่อยากเป็น  ไม่อยากฝันเล็ก ๆ ในวงการดนตรีก็คือ  เหตุการณ์นึงที่ผมได้ไปออดิชั่นร้านเล็ก ๆ ในมหาลัยดังย่านปทุมธานี  ซึ่งผมสนิทกับเจ้าของร้านเป็นการส่วนตัว  ตอนนั้นพี่เจ้าของร้านยังไม่มีนักดนตรีประจำร้าน  เขาเห็นว่าผมชอบ  พอไปได้   พอไปไหว  หรือเป็นประเภทแบบ  แก้ขัด  เฉพาะกิจไปก่อน  ระหว่างรอคนที่เขาเป็นสายอาชีพจริง ๆ แล้วมาเล่นประจำที่ร้าน  พี่เขาเรยชวนให้ผมไปเล่นซักพัก  เล่นเพื่อชีวิต กับเพลงสากล แล้วก็เพลงไทย ๆ สบาย ๆ น่าฟังไปก่อน  ผมก็ไปเล่นไปร้อง  ตีคอร์ดธรรมดา  แต่ร้องฝรั่ง  มีนักศึกษาผู้หญิงสวยมาขอร้องเพลงฝรั่งคู่ด้วย  ผมก็ยิ้ม  โอเคเลย  ก็เธอสวยนี่นา  แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นในระหว่างที่เธอร้องคู่กับผม  ทำให้ผมมีมุมมองอีกมุมเกิดขึ้น  คือ  เธอมานั่งตักผมร้องเพลง  ถ้าเป็นคุณคงอาจอิจฉาก็ได้  ช่วงผมเบรคผมมานั่งดื่มกาแฟยามดึก  ผมคิดเลยว่า  ขืนผมเดินทางสายนี้ ผมคุมตัวเองไม่ได้แน่   กลัวใจตัวเอง ผมกลัวลุ่มหลง  จนกลับตัวกลับใจไม่ได้  เพราะคนสมัยใหม่ใจเร็ว  ทำอะไรไม่คิด
ยิ่งเดี๋ยวนี้มีผู้หญิงที่ล่านักดนตรีไปนอนด้วย (ขอพูดตรงๆ นะครับ)  ตั้งแต่วันนั้นผมเบนเข็มตัวเอง  ไม่อยากเลือกทางเดินเล่นดนตรีกลางคืน  แต่ขอเลือกเล่นแบบอดิเรก หรือร้องในโอกาสพิเศษบ้าง เล็ก ๆ น้อย ๆ ดีกว่า  ผมไม่ได้บอกว่าอาชีพนักร้องศิลปินไม่ดีนะครับ  ถ้าไม่มีอาชีพนี้คุณคงไม่มีเพลงเพราะๆ ฟังกันหรอก  แต่แค่จะบอกว่าผมกลัวควบคุมจิตใจตัวเองไม่ได้เท่านั้นเอง
เลยเลือกวิธีเล่นแบบอดิเรกดีกว่าและที่สำคัญฝีมือผมไม่ถึงขั้นมืออาชีพซะด้วย...555 แร้วจะคุยทำไววะเนี่ย... 

     แล้วหลังจากนั้น  ผมก็ไปทำงานเฮียตี๋  ขายเครื่องประดับเกาหลี 
เครื่องประดับแสตนเลส  ตามตลาดออฟฟิศในเมือง
          เรามันเหมาะกับแฟชั่น  เราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
       ขายเครื่องประดับอยู่พักใหญ่ ๆ ก็ลองมาขายสินค้าของตัวเองดูบ้าง  เป็นพวงกุญแจที่เป็นงานแฮนเมดของไทยเราเอง  จากภาคเหนือ และจากนักศึกษาจบใหม่ที่มีฝีมือการปั้นดินดี  ผมได้คนออกแบบเป็นน้องจาก ราชมงคล ที่เขาพึ่งลองทำดูแต่ยังไม่เคยขายใคร
ผมสั่งซื้อเป็นคนแรก  และสั่งเป็นล๊อต  ผมมั่นใจในผลิตภัณฑ์ตัวเองมาก
เห็นได้ชัดว่าตอนเราขายของให้คนอื่น มันขายง่าย ขายดี  แต่พอเป็นของเราเอง  เรามักจะเข้าข้างตัวเองว่ามันต้องขายดี  เพราะว่าเราชอบ แล้วของของเราก็สวย  ไม่แพ้ใคร  จัดร้านตกแต่งอย่างดี  สวยงามมาก มีแต่คนแวะชม  แต่ไม่มีคนซื้อ  ท้ายที่สุดแล้วผมต้องขายโล๊ะและแจกเด็ก ๆ เป็นของขวัญคริสต์มาสต์  ผมขาดทุนไป  5,000 บาท  ยังไม่เจ็บตัวมาก  ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีในการเลือกสินค้าที่จะขาย

      
    ชีวิตก็ต้องสู้และเดินหน้ากันต่อไป  จากนั้นคุณพ่อและคุณยายของผมล้มป่วยลง 
ผมต้องคอยดูแลทั้งสองท่าน  เลยไม่ได้เป็นอันทำอะไร  ก็มีแค่ไปช่วยขายของให้เฮียตี๋ เจ้าของเครื่องประดับ ตี๋แสตนด์เลส  ที่เคยให้โอกาสผมขายเครื่องประดับ ไปช่วยขายบ้างในวันที่ไม่ต้องเฝ้าคนป่วยพอเป็นรายได้ค่ากับข้าวกับปลา  ส่วนหนึ่งผมใช้เงินดำรงชีวิตด้วยเงินเบี้ยหวัดทหาร  พอเป็นเงินยังชีพไปก่อน ผมมีชีวิตที่ต้องคอยดูแลคนป่วย 2 ปีกว่า ที่แทบจะไม่ได้จับงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน  จนทั้งสองท่านจากผมไป
หลังจากนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้เข้ามาร่วมทำธุรกิจออนไลน์
กับคุณเคเพื่อนสนิท

แล้วเคยทำอะไรร่วมกันกับคุณเคมาบ้าง?



โปรเจ็คแรกเลยหารายได้ช่วงปิดเทอม  ไปเป็นเด็กแบกรังเป็บซี่
ในงานแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ 
จนเปิดเทอมเพื่อน ๆ ทุกคนเห็นผมตัวดำจนเพื่อนทักว่า 
"ช่วงปิดเทอมมึงไปทำนามาเหรอ?"

ในตอนนั้นผมยังไม่รู้เลยว่าทำไมต้องไปลำบาก  
ทำไมต้องไปหาเงินใช้ทั้ง ๆ ที่พ่อแม่ก็หาให้เราใช้ได้
มีเหลือใช้สบาย ๆ  เป็นครั้งแรกที่จ่ายค่าเทอมด้วยฝีมือแรงงานตัวเอง
ผมไม่นับประสบการณ์ตอนเด็กๆ ที่ช่วยคุณยายพายเรือขายขนมตาลนะครับ ตอนนั้นทำเพราะยายอยากให้ช่วยทำไม่ได้มีความคิดที่จะอยากหาเงินใช้เลย


โปรเจ็คที่สอง  ก็เคยขายข้าวสารกับคุณเค  ในระหว่างผมเรียน ผมกู้กองทุนหมู่บ้านเพื่อนนำเงินมาใช้จัดการแข่งขันกีฬาในชุมชน และอีกก้อนก็งอกโปรดักซ์มาเพื่อสร้างอาชีพ

 พวกเราคิดไม่ออกกันว่าจะทำอะไร ตอนนั้นกู้กันในนามกลุ่มเยาวชนที่เราตั้งกันขึ้นมา  ในเมื่อคิดไม่ออก  คนเราต้องกินข้าว เลยลองขายข้าวสารกันดูครับ 
เริ่มหัดทำธุรกิจก็เล่นของหนักกันเลย มีขายน้ำปลาด้วยนะค้า..บ

  ......  ส่วนโปรเจ็คที่สาม  ก็เป็นขายมะม่วงน้ำปลาหวานด้วยกัน แล้วก็สลัดผัก  จากนั้นผมก็แยกตัวไปทำขายประกันชีวิตและขายตรง...




นูไลฟ์  คือ  ผลิตภัณฑ์ตัวแรกเลยที่ทำให้ผมมีความฝันอยากเป็นคนรวย  นูไลฟ์  ทำให้ผมอยากมีรายได้มหาศาล 

       ตอนที่ผมไปทำงานพวกขายตรงในตอนนั้นผมเลือกทำกับ ENZIMAX 2000 
เป็นเอ็นไซน์บำบัดโรค  ผมลองเทสสมัครเป็นพิธีกรก่อนแต่ไม่ผ่าน เลยลงไปเป็นสมาชิกทำตลาดทำทีมเองแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ  สิ่งที่ได้กลับมาคือบุคคลิกภาพที่ดีขึ้นเท่านั้นเอง  พร้อมรายได้ไม่มากนัก

   
   ขวามือคือรูปพี่ที่ร่วมเดินบนเส้นทางของธุรกิจระบบขายตรง
ผู้ที่ทำให้ผมเปิดโลกกว้างของชีวิตจริงที่เราต้องมีประสบการณ์มากกว่าในรั้วของการเป็นนักศึกษา  กับคำพูดที่ว่า
"คุณเป็นนักศึกษา  คุณต้องศึกษาทุกเรื่อง"
   
ตอนนั้นผมเป็นตัวแทนประกันชีวิตของเมืองไทยประกันชีวิตด้วย 
ผมก็ยังไม่ถือว่าผมอยู่ในจุดที่มีความสุขของอาชีพ
ผมทำเพราะคิดว่า  ไม่ว่าเราจะได้อะไรมากน้อยแค่ไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับการได้มีประสบการณ์ของชีวิต

นอกเหนือจากนี้ทำอะไรมาบ้าง?

ครั้งหนึ่งในชีวิตผมต้องขอขอบคุณ อาจารย์หวา มานาเฉาก๊วย
ช่วงเวลาสั้น ๆ เวลานึงผมได้สัมผัสและได้เรียนรู้ระบบของธุรกิจด้านอาหาร  ผมจะเรียกอาจารย์หวา หรือพ่อโดม  ว่าป๊านะคับ  ผมไม่เคยเรียนรู้การขยายการตลาดในหมวดหมู่ของผลิตภัณฑ์อาหารเลย
ก็ได้เห็นวงจรหรือเห็นปัญหาของการทำระบบ  เพราะว่าของกินถ้าหากเราไม่มีระบบรองรับที่ดีแล้ว  การขยายการตลาดอาหารถือว่าเป็นงานหนัก  งานยากเลย  ขอบคุณป๊าที่สนับสนุนผมทุก ๆ เรื่อง  ค่าย mana group food  ผมไม่ลืมเลย  อร่อยมากคับ  เฉาก๊วยมานา  ปัจจุบันผมไม่ทราบว่าเปลี่ยนแบรนด์หรือยังนะคับ
แต่เป็นประสบการณ์ดี ๆ จากผู้ใหญ่ใจดีที่ให้โอกาสได้เห็นระบบ
การทำตลาดจริง ๆ คับ





งานส่วนตัวก็รับเป็นพิธีกรงานแต่งงาน  ร้องเพลง








เป็นช่างภาพทั้งภาพนิ่งภาพวีดีโอ





คุยเรื่องงานมาเยอะแล้วมาคุยเรื่องส่วนตัวหรือชีวิตในแต่ละวัยกันบ้างดีกว่า


  
  วัยเด็กเรียนประถมศึกษาที่ ร.ร.วัดโพธิ์เลื่อน  จ.ปทุมธานี  , 
ม.ต้นและ ม.ปลาย  ที่  โพธินิมิตวิทยาคม  จ.นนทบุรี  นิสัยส่วนตัว
จะเป็นเด็กที่ชอบแต่งตัว  ชอบทำเรื่องที่ครูบาอาจารย์ไม่ชอบก็คือ
ชอบใส่เจลทำผมตั้ง ๆ ครูที่ตรวจเวรตอนเช้าจะชอบให้ผม
ไปล้างเจลออก  บางทีก็เอาน้ำจิ้มลูกชิ้นราดหัวบ้างเป็นการทำโทษ ผมเป็นคนที่ชอบแฟชั่นทรงผม  เข้ามาต่อ ม.ปลาย ก็ไว้ผมยาวที่สุดในโรงเรียนจนอาจารย์ไล่ไปตัด  อะไรๆ ก็ทำดีมาตลอด  ยกเว้น
เรื่องเดียวของคนรักหล่อ คือ  อย่ามายุ่งกับผม (hair  hair ) 


ตอนนั้นผมมีสโลแกนในใจว่า คนเราจะเรียนดีไม่ดี  เก่งไม่เก่ง มันได้อยู่ที่เส้นผมเลย  เมื่อไหร่ประเทศไทย
จะปฏิวัติกฏหยุมหยิมแบบนี้ซะที  ผมคิดในมุมแบบเด็ก ๆ ที่ชอบอิสระ  อยากหล่อ  อยากให้สาวๆ มอง 


   
    ขวามือเป็นรูปเพื่อน ๆ ทีเคยเรียนมามหาลัยมาด้วยกัน  ปัจจุบันก็มีครอบครัวกันไปแล้วหลายคน  บางคนก็กำลังจะมีครอบครัว
คงเดาไม่ยากใช่มั้ยคับตั้งแต่ที่อ่านมาผมควรไปทางด้านไหน....
วิทยุโทรทัศน์  คับ  ตอนนั้นไม่รู้ว่าชอบจริง ๆ หรือป่าว แต่สิ่งที่ติดตัวมาได้ใช้วิชาทางด้านนี้ทุกวันแต่เป็นการประยุกต์ใช้กับงานบางอย่าง  โลกเปลี่ยนไปมากมีอุปกรณ์ใหม่ ๆ ขึ้นมาเสริมในการทำงาน



   

 ปัจจุบันนาน ๆ ครั้งก็จะได้มีโอกาสเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาซักที  ส่วนมากก็จะรวมตัวกันได้ครบถ้วน  เมื่อถึงงานแต่งงานของใคร
คนใดคนหนึ่ง  



ยังมีเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้องๆอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังคงคิดถึงอยู่ในใจเสมอ  ก็จะเป็นพี่ๆ เพื่อน ๆ น้องๆ ที่เป็นสมาชิกในโบสถ์ที่ผมอยู่  ปัจจุบันนาน ๆ ครั้งผมถึงจะได้มีโอกาสไปสถานที่ที่ผมอยู่แล้วมีความสุขได้ทั้งวัน
ซักทีนึง  เข้าโบสถ์เมื่อไรก็ชื่นหัวใจทุกครั้ง


                             เป็นรูปภาพที่ผมได้ร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆในแต่ละเทศกาลหรืองานพิเศษ





ไลฟ์สไตล์หรือชีวิตส่วนตัวก็เป็นคนง่าย ๆ ติดดิน มีสิ่งที่ชอบเป็นพิเศษคือกีตาร์โปร่งกับเสื้อผ้าชุดฟุตบอล  ชอบเล่นฟุตบอล  มีทีมโปรดเป็น  ชลบุรี  เอฟซี 
กับ  รีล  แมดริด  นักเตะในดวงใจต้องยกให้  โรนัลโด้

               




 อีกหนึ่งสิ่งที่ชอบทำคือการเปลี่ยนทรงผม






   ผมมั่นใจกับทุกสิ่งที่ผมทำ  แม้แต่เรื่องทรงผมไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนลุคยังไง
ตัวคุณก็คือตัวคุณ  คำวิจารณ์จากคนอื่นเป็นเพียงส่วนประกอบที่ทำให้คุณมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น  ผมทำอะไรในเรื่องของแฟชั่นทรงผมที่มากกว่านั้น  แต่ไม่ได้บันทึกภาพเก็บไว้ ถ้าคุณเปลี่ยนสไตล์เปลี่ยนลุคตัวเองบ่อย ๆ จะมีผู้คนมากมายวิภาควิจารณ์คุณทั้งมุมที่ดีและไม่ดี  แต่ถ้าคุณได้ก้าวผ่านมาหมดทุกอย่างแล้ว สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ลุคข้างนอกว่าคุณจะเป็นแบบไหน  แต่อยู่ที่ความสุขในใจของคุณกับสิ่งที่คุณทำ


   คนทุกคนจะมีช่วงเวลาที่อ้วนท้วนสมบูรณ์ที่สุด  เป็นกังวลกับการกิน
น้ำหนักตัวเกินแล้วก็ลดลงยาก  อ้วนง่ายแต่ตอนลดน้ำหนักกลับทำได้ช้าเวลามีคนมาทักว่าอ้วนขึ้นก็จะขาดความมั่นใจ  บางคนเห็นคนอื่นรูปร่างดีกว่า
ก็อยากจะทำได้อย่างนั้นบ้าง  แต่เห็นแล้วก็รู้สึกท้อที่จะออกกำลังกาย
หรือควบคุมอาหารการกิน  บางจังหวะเวลาในชีวิตเราก็มีช่วงเวลาที่ฉลอง
หรือปาร์ตี้บ่อยๆทำให้รูปร่างอ้วนขึ้นในช่วงเวลานั้น  

      อีกหนึ่งสิ่งที่ส่งผลให้เราอ้วนคือการนอนดึกและทานมื้อค่ำ  และถ้าหากเราอายุเพิ่มขึ้นการเผาผลาญก็จะยิ่งช้าลง  ทำให้เราไม่สามารถที่จะคืนสู่สภาพเดิมที่เคยดูดีได้  และยิ่งถ้าหากไม่ได้จัดเวลาออกกำลังกายแล้วละก็  
นอกจากจะอ้วนแล้ว  ปัญหาสุขภาพจะตามมา  

          
      
  
     เมื่ออายุเยอะขึ้น  มีสิ่งสำคัญต้องทำเพิ่มขึ้น  การใส่ใจในการดูแลตัวเอง
จะน้อยลง  สิ่งที่ทำได้คือการประคองตัวเองให้อยู่ในการรับประทาน
แต่สิ่งที่มีประโยชน์ควบคู่กับการออกกำลังกายแต่พอควร       

       


                                                

                                          
 ประสบการณ์บนโลกโซเชี่ยลและการทำเวป    
                                                 

by : คุณเจมส์

จากจุดแรกเริ่มเลยที่ผมได้คุยกับคุณเค เจ้าของเวปไซต์ skythailandshop.com ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ผมพึ่งจะสูญเสียคุณพ่อและคุณยายไปในเวลาใกล้ ๆ กัน  เป็นช่วงเวลาต่อจากน้ำท่วมหนักที่ จ.ปทุม  คุณเค  เขาประสบปัญหา
ในการทำธุรกิจกับอีเบย์  เพราะจัดส่งของให้ลูกค้าไม่ได้ในช่วงเวลาอุทกภัย 
ผมเองอยู่ในจังหวะเวลาที่พึ่งจะได้เริ่มต้นมองหาอะไรทำอีกครั้งหลังจากที่ดูแลคนป่วยคุณพ่อกับคุณยายมายาวนาน จนท่านทั้งสองจากไป  ยังดีที่ผมมีเงินยังชีพจากเบี้ยหวัดทหารไว้พอประคองค่าใช้จ่ายพื้นฐานส่วนตัว 
     ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ผมได้คุยกันบ่อย  ภายเรือออกไปตกปลาด้วยกันบ่อย  ตอนน้ำท่วมเราต้องหาหนทาง  หากับข้าวกับปลากินกันเอง  ไม่ค่อยได้รับความช่วยเหลือจากภายนอกเท่าไหร่  คุณเคก็มีสินค้าที่สั่งนำเข้ามาและยังขายไม่ได้เงินก็ยังจมกับสินค้า  ก็ยังจำภาพที่ไปนั่งขายอายชาโดว์หลังน้ำท่วม
ด้วยกันได้  แล้วก็เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเวปเพื่อขายสินค้าในไทย  ตอนนั้นผมยังไม่รู้เลยว่าจะช่วยคุณเคทำอะไรได้บ้าง  เลยขอเป็นคนช่วยโพสต์
ในการขาย  แล้วก็หัดเขียนบทความสำหรับการขายสินค้า  ซึ่งไม่มีหลักอะไรเลยในการเขียน  พูดง่าย ๆ ว่าเขียนเอามันไว้ก่อน  ไอเดียออกมายังไงก็เขียนแบบนั้นเลย  ไม่ได้คิดอะไรมาก  เทคนิคก็ไม่มี  ผมอย่างอ่อนประสบการณ์มาก ๆ คิดแค่ว่าต้องเขียนให้ได้เยอะๆ  เขียนให้ได้มาก ๆ เพื่อทำให้เวปมีเนื้อหาเยอะ ๆ กูเกิ้ลอาจจะให้ความสำคัญกับเวปก็ได้เพราะมีบทความหลายบทความ
ตอนนั้นองค์ประกอบในการเขียนของผมมีแค่รูปภาพกับเนื้อหายาวๆ ก็พอ เพราะคิดว่าคนคงชอบอ่านกัน 

         สินค้าในเวปเราตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ก็ยังคงเป็นนาฬิกาแฟชั่นซะส่วนใหญ่  ในวันที่เราขายกันไม่ดี  จนคิดว่าถ้าเราทำการตลาดออนไลน์อย่างเดียวมันคงอยู่ไม่ได้  พวกเราประชุมกันกันและคิดว่าจะทำตลาดในโลกความจริงด้วยคือการออกไปวางขายข้างนอกด้วย  และใช้กลยุทธ์ไปฝากขายกับเจ้าของร้านนาฬิกาบนห้างหรือตามจุดต่าง ๆ แล้วก็ตัดเปอร์เซ็นต์กันไป  ผมทำหน้าที่เป็นเซลล์เองไปเจรจาหาร้านติดต่อบนห้าง  เพื่อจะทำตลาดบนโลกความจริงควบคู่ไปด้วย  สิ่งหนึ่งเมื่อไปติดต่อเจรจาแล้ว  คำตอบที่ได้กลับมาคือไม่มีร้านไหนสนใจสินค้าของเราเลย  คุณรู้มั้ยคับเป็นเพราะอะไร.....คำตอบคือ  เป็นเพราะว่าทุก ๆ ร้านเขามีคู่ค้าของเขาอยู่แล้ว  เวลาคนที่ค้าขายด้วยกันมานานแม้คุณจะไปเสนอราคาที่ถูกกว่าให้เขา  แต่เขาจะนึกถึงคู่ค้าของเขาก่อนอยู่เสมอ  โอกาสที่เราจะเสนอเพื่อให้เขาตัดสินใจซื้อเราเพราะว่าราคาถูกกว่ามันก็มี  แต่โดยมากแล้ว
คนทำการค้าเขาจะซื่อสัตย์และอยู่กับคู่ค้าด้วยกันมากกว่า  นอกจากเป็นสินค้าที่ไม่ทับเส้นทางกันหรือคนละประเภทกัน  ผมกลับมาพร้อมกับคำตอบที่มาบอกกับคุณเคว่า  ทุกร้านเขา say " NO"  กันมา    พวกเราเลยคิดกันว่าถ้าอย่างนั้นในเมื่อเราเป็นพระเอกในโลกความจริงกันไม่ได้  เราต้องเป็นพระเอกในโลกออนไลน์ให้ได้   จึงเป็นที่มาที่ทำให้ผมศึกษา
และหาประสบการณ์เพิ่มเติมเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาในเรื่องการทำออนไลน์ ฝึกคิด  ค้นหาวิธีการ และพัฒนาการเขียนบทความ  การทำ Content SEO

    วันแล้ววันเล่า  ที่ผมอยู่กับโลกออนไลน์  ตื่นมาในทุก ๆ วัน  พร้อมกับคำถามที่ถามตัวเองว่า  "เฮ้ยวันนี้กูจะเขียนเรื่องอะไรดี"  ชีวิตของผมแทบจะอยูกับโลกไซเบอร์ไปเลยก็ว่าได้  ในยามว่าง ๆ ผมจะชอบแต่งโปรไฟล์เล่น ๆ
ในเวป tagged แล้วก็ส่ง messege จีบสาว ๆ  ผมเล่นเวปนี้จนติดเรยก็ว่าได้ (สงสัยจะติดสาว ๆ555) แล้วก็ก่อนที่จะทำงานกับคุณเคผมก็เคยติดเกมส์มาก่อนเหมือนกัน  แต่ก็แบ่งเวลาเล่นนะครับ  ผมชอบเล่นโครนอส  ปัจจุบันก็เลิกเล่นหมดแล้วเกมส์ออนไลน์  สิ่งทีผ่อนคลายก็จะชอบเล่นฟุตบอล  เล่นกีตาร์  ดูตลก  ดูหนัง  ดูข่าว  ซะมากกว่า
         ผมได้เรียนรู้การใช้โปรแกรมโฆษณามาเกือบหมดทุกตัว  เนื่องจากเราไม่เคยอยู่ในวงการนี้  เราไม่รู้ว่าอะไรบ้างที่ตอบโจทก์หรือไม่ตอบโจทก์  มีดีหรือไม่อย่างไร  แต่สุดท้ายก็กับค้นพบว่า  เราต้องประยุกต์การใช้งานโปรแกรมจริง ๆ อยู่ที่ความคิดในการรู้จักผสมผสานเทคนิค  แต่สิ่งที่ผมได้มอบให้กับสมาชิก ในเวป kdropshipping  คือสิ่งที่ผมกรองมากับมือ  และจะคอยอัพเดท
หรือเพิ่มเติมให้เสมอ  ผมเข้าเวปไซต์ทุกเวปไซต์ที่มีอยู่ในโปรแกรม  เช่น  สมมุติว่าผมซื้อโปรแกรมโพสต์เวปบอร์ดมาใช้งานแล้วเขามีเวปให้โพสต์ในโปรแกรมทั้งหมด 1,500 เวป  ผมเข้าไปนั่งเช็คทีละเวปเลยว่าเวปไหนใช้งานได้  ใช้งานไม่ได้  หรือไม่น่าใช้งานไปโพสต์แล้วไม่ค่อยมีคนเข้า  แล้วผมก็คัดเวปเหล่านั้นมาแบ่งปันให้ลูกค้าที่เป็นสมาชิกกับผม  และมันไม่ได้มีแค่ประเภทที่เป็นเวปของเวปบอร์ดอย่างเดียว  มันแบ่งประเภทของเวปไว้อีกหลายประเภท  และผมเข้าไปดูมาทั้งหมดทีละเวป  เพื่อแบ่งปันให้สมาชิกจริง ๆ ในการแชร์เทคนิค 

      ไม่มีโปรแกรมเมอร์คนไหนมาบอกคุณหรอกว่า  มีเวปไหนบ้างใช้งานได้  ใช้งานไม่ได้  น่าใช้งาน ไม่น่าใช้งาน เพราะบางทีก็มีเวปที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยก็ถูกนำมารวมในโปรแกรมเพื่อให้ดูว่ามีจำนวนเวปที่เยอะน่าซื้อ  เมื่อซื้อแล้วคุณก็จะมีช่องทางหลายๆ ช่องทางอยู่ในมือ  แต่ความจริงคุณหรือป่าวว่าอะไรเป็นอะไร  นี่คือสิ่งที่ทีม kdropshipping  ไม่ต้องการให้คุณเสียเงินแบบไม่คุ้มค่า  ผมไม่ได้หมายความว่าพวกนักทำโปรแกรมไม่ดีนะครับ
     แต่เนื่องจากเวปบางเวปมีการหมดอายุและไม่ได้ต่อ  เลยทำให้เวปที่ต้อง
ไปโพสต์บางเวปใช้งานไม่ได้  โปรแกรมเมอร์บางทีก็ไม่รู้วันหมดอายุของเวปครับ  ผมไม่รู้ว่าผมเป็นผู้ที่เข้าเวปไซต์ในประเทศไทยมากที่สุดในรอบ 2 ปี
หรือป่าว  ไม่กล้าฟันธง  เพราะเหนือฟ้ายังมีฟ้าวันยังค่ำ  เอาเป็นกล้าพูดเต็มปากว่าในอำเภอที่ผมอยู่ทั้งอำเภอ  หากมีคนถามว่าใครเข้าเวปไซต์เยอะที่สุด
ผมกล้ายกมือว่าเป็นผมครับ  แล้วถ้ามีคนเข้าเยอะเหมือนผมในอำเภอเดียวกัน  จนต้องมีการตัดสิน  ผมก็มั่นใจว่าผมต้องติดอันดับในสามอันดับแรกแน่นอน  
นี่คือการทำงานที่ผมนั่งอยู่กับมันจริงๆ ลองผิดลองถูก  จนผมแน่ใจและไม่อยากให้สมาชิกต้องเสียเวลาที่จะเรียนรู้และช่วยเซฟค่าใช้จ่ายในการทำงานให้ครับ...

พูดคุยถึงแวดวงธุรกิจออนไลน์

             การแข่งขันในโลกตลาดออนไลน์ก็สูงไม่แพ้กับการค้าในโลกความจริงเช่นกัน  เชื่อว่าสมาชิกของเวปผมก็คงเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้   วันดีคืนดีก็มีใครไม่รู้มาโพสต์ถึงสินค้าร้านคุณในทางเสียๆหายๆ คุณภาพบ้าง  การจัดส่งบ้าง  แล้วคนที่มาโพสต์เป็นใครก็ไม่รู้  ลูกค้าก็ไม่ใช่  ไม่เคยรู้จักไม่เคยใช้ของชิ้นนั้น  จะเป็นหน้าม้าของคู่แข่งหรือป่าวเราเองก็ไม่แน่ใจ  ถ้าร้านคุณขายดีกว่า
และอีกร้านนึงขายไม่ดีก็จะส่งคนมาโจมตีด้วยคอมเม้นท์  หรือบางครั้งก็มีการ copy สิ่งที่คุณทำไปทั้งดุ้น  ไม่ว่าจะภาพ  คลิปวีดีโอสินค้า  บทความ 
แล้วทัศนะคติทางการค้าของคุณจะเป็นอย่างไร  คุณแคร์กับลูกค้าที่จะเข้ามาดูสินค้าในเวปคุณหรือไม่  บางทีมันก็อาจเป็นผลร้ายถ้าลูกค้าดันไปเชื่อคอมเม้นท์ที่ใส่ร้าย  แต่นี่คือโลกของการแข่งขัน  คือสิ่งที่ทุกคนต้องเจอ 
ระยะทางพิสูจน์ม้า   กาลเวลาพิสูจน์คน  หนึ่งสิ่งที่คุณทำอย่างมีคุณค่า 
ลูกค้าจะไม่ลืมคุณ  ใครจะพูดว่าอะไรก็ไม่มีผลกระทบ  อยากให้กำลังใจสมาชิกนะครับ  ผมเองก็ไม่ใช่คนเก่งหรือประสบความสำเร็จอะไรมากมายนัก  แต่ถ้าคุณมองธุรกิจเป็นเรื่องของการแบ่งปัน ไม่ว่าจะแชร์ประสบการณ์แลกเปลี่ยนหรือเพียงแค่พูดคุยถามไถ่กัน  แค่นี้ก็เกิดประโยชน์ต่อกันแล้วคับ  ทรรศนะคติบวกและหวังดีกับคนอื่นคือสิ่งที่หัวใจสำคัญสำหรับการค้า.........................

ผลงานที่ทำร่วมกับคุณเค



สิ่งนี้คือความภูมิใจที่เวปไซต์เราได้มา เป็นสิ่งที่เงินทองหาซื้อไม่ได้  จุดเริ่มต้นมาจากการทำ Content  SEO  จนมีนิตยสารมาเห็น  และหลังจากนั้นได้มีข้าราชการในสำนักพระราชวัง  เห็นผลงานและความน่าเชื่อถือจนได้รับโอกาสในการถวายงาน

แชร์ประสบการณ์ในการเขียนบทความ Conttent SEO

        สิ่งที่ผมหลงภูมิใจในการทำ SEO ครั้งแรกเลย  คือผมทำให้เวปไซต์
ติดอันดับบนกูเกิ้ล  25  หน้ารวด  โดยเบียดคู่แข่งไปอยู่หน้าท้ายๆ ต้องคลิ๊กเข้าไปยี่สิบกว่าหน้าเราถึงเจอคู่แข่งในสินค้าเดียวกัน  แต่นั่นคือความเข้าใจผิดของผมเพราะ คำค้นหา(keyword) ดันไปติดคำว่า  นาฬิกา led  ซึ่งตอนนั้นยังไม่ค่อยแพร่หลาย  ยังไม่มีใครรู้จัก  ยังไม่ค่อยมีใครพิมพ์คำนี้บนกูเกิ้ลด้วยซ้ำ  แต่ผมทำการโฆษณาจนติดเกือบทุกหน้า ใน 25 หน้า มีแต่เวปของผม มีของคนอื่นแซมมาบ้างเล็ก ๆ น้อย ผมภูมิใจมาก  แต่พอเช็คคนเข้าเวปกับเงียบเหงาทั้ง ๆ ที่อันดับมันดีมาก ๆ โอกาสทางการค้าน่าจะเป็นของเรา  ถ้าคุณได้อ่านในประวัติของคุณเค  คุณจะเห็นลิงค์ที่เป็นผลงานในการเขียนของผม  คุณจะได้เห็นพัฒนาการจากคนไม่เป็นอะไรเลย  นึกอะไรก็เขียน  แข็ง ๆ ทื่อ ๆ เพ้อเจ้อยังมี
มีทั้งงานที่เขียนเล่น ๆ เอาสนุก  กับงานที่ทำแบบเป็นเรื่องเป็นราว  แต่ผลลัพธ์ไม่ได้เรื่องเลยก็มี  ต้องยอมรับว่าผมยังไม่มีประสบการณ์จริง ๆ  คุณอาจจะเห็นในยูสเซอร์เนมของคุณเค  แต่จริงๆ แล้วผมเป็นคนขียน  (เฉพาะเรื่องของบทความสินค้านะครับ)  ตอนนั้นยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกของ blogspot เลย  เลยใช้ยูสเซอร์คุณเคเขียน  ก็มีทั้งโม้  ทั้งอ่านมาจากที่อื่นและสรุป  รีไวท์บทความใหม่ก็มี  ยังไม่มีรูปแบบและลายเซ็นต์ของตัวเองเลย  เชื่อว่าหลังจากนี้  หลังจากที่สมาชิกได้รู้เทคนิค  รู้จักพื้นฐานคำสั่งแต่ละเมนูการใช้งาน  และผสมกับคีย์เวิร์ดการค้นหา  บวกกับไอเดียของคุณเอง  เชื่อว่าคงจะทำได้ดีกว่าผมแน่นอนครับ  

อยากพูดอะไรในตอนท้าย : ผมคิดว่าผมต้องมีเรื่องที่ผมต้องมาเขียนเพิ่มเติมต่อจากนี้อย่างแน่นอน  เอาเป็นว่าสมาชิกทุกคนสามารถสอบถาม ติชม หรือเพิ่มเติมข้อเสนอแนะได้ครับ 
ในแฟนเพจของเวปเรา  ถ้าในเรื่องที่ผมมีประสบการณ์
หรือตอบได้ชัดเจนชัวร์ ๆ ผมจะเข้าไปตอบที่แฟนเพจ  และถ้าหากเป็นเรื่องใหม่ที่ผมเองยังไม่เคยทราบผมก็จะพยายาม
ไปหาคำตอบมาให้นะครับ  รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติจริง ๆ ที่ได้มาแบ่งปัน  สมาชิกหลาย ๆท่าน เป็นคนเก่ง เป็นคนมีฝีมืออยู่แล้ว แต่บางทีอาจจะมีบางสิ่งที่ไม่เคยรู้ ก็จะได้สิ่งเพิ่มเติมกลับไปเพื่อพัฒนางานของคุณ  ผมคงได้มีโอกาสทำความรู้จักหรือใกล้ชิดสมาชิกมากขึ้น  ขอให้สุขภาพดีและมีความ                                                                                        ก้าวหน้าในหน้าที่การงานทุกคนครับ
ป.ล. สมาชิกบางท่านที่ได้อ่านประวัติของคุณเค คงจะได้เห็นคุณแพทและคุณเหวินนะครับ  บางท่านอาจจะสงสัยว่าคุณเคเขามีแฟนแล้ว  แล้วผมล่ะเป็นคู่ขาของคุณเคหรือป่าว 5555 (คิดได้ไง)  ผมยืนยันคับว่าใช่....เอ้ย...ไม่ใช่   ผมเป็นเพื่อนคู่หูจิงๆ คับ    ไว้ติดตามกันต่อไปนะค้า...บ